มัลดีฟส์ ประวัติ เป็นมาอย่างไร?
มัลดีฟส์ นั้นมีอีกชื่อหนึ่งว่า สาธารณรัฐมัลดีฟส์ (Republi of Maldives) เมืองหลวงคือมาเล่ ครั้งหนึ่งเคยตกเป็นอาณานิคม ของประเทศอังกฤษ ภาษาราชการของที่นี้ จึงใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร แต่ประชากรกว่า 97เปอเซนต์ ที่นับถือศาสนาอิสลาส มัลดีฟส์ประกอบด้วยหมู่เกาะประการังจำนวนมาก ในมหาสมุทรอินเดีย
และตั้งอยู่ทิศทางตะวันตกเฉียงใต้ ของประเทศอินเดียและศรีลังกา ห่างจากประเทศศรีลังกา ประมาณ 700 กิโลเมตร หมู่เกาะมัลดีฟส์ เกิดจากการทับทมกัน ของหินประการัง
ทำให้ลักษณะภูมิประเทศ เป็นแบบเกาะเล็กๆ กระจัดกระจายประมาณ 1,192 เกาะ มีผู้คนอาศัยอยู่ทั้งหมด 250 เกาะ ประเทศมัลดีฟส์จึงได้กลายเป็นประเทศ ขนาดเล็กที่สุดในทวีฟเอเชีย
ทั้งในแง่ของจำนวนประชากร และขนาดพื้นที่อาศัย อีกทั่งยังถือว่าเป็น ประเทศที่มีความสูงจากระดับน้ำทะเล ที่เตี้ยที่สุดในโลกอีกด้วย จุดสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 2.3 เมตรจากน้ำ
เวลาในประเทศมัลดีฟส์นั้น ช้ากว่าประเทศไทยถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งแต่ละเกาะนั้นเวลาต่างกัน ในแต่ละเกาะที่กระจายออกไป คนที่นี้เขาเรียกกันว่า Island Time จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู๋แต่ละเกาะ
สกุลเงินของที่นี้คือ Maldivian Rufiyaa และ Laaree หรือ MVR แต่ส่วนใหญ่จะใช้ US Dollar เพื่อเอื้อสำหรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ที่จะได้สะดวกสบาย (USD 1 = 12.75 MVR)
ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับค่าเงินที่ผันแปร ด้วยเช่นกันภูมิอากาศเป็นแบบเขตร้อนชื้น อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 27-30 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปีช่วงที่ปราศจากมรสุม คือเดือน ธันวาคม – มีนาคม จึงทำให้มัลดีฟส์มีสภาพอากาศ ที่เหมาะแก่การมาท่องเที่ยว หมู่เกาะต่างๆในมัลดีฟส์ ซึ่งต่างจากทะเลบ้านเราที่ แดดเหมาะแก่การอาบแดดมากกว่า
มัลดีฟส์ มีความน่าสนใจอย่างไร?
การได้มาพักผ่อน ชายทะเลที่มีสภาพอากาศแสนอบอุ่น ชายหาดที่ขาวโพน น้ำทะเลที่ใสจนเห็นพื้นใต้ทะเล เป็นความงดงามทางธรรมชาติที่ดี แก่การเดินทางมาพักผ่อนเลยทีเดียว ด้วยอากาศที่อบอุ่น ที่นี้จะมีสภาพอากาศ อุณหภูมิราวๆ 29 – 32 องศาเซลเซียส อากาศอบอุ่นทั้งปี เพราะตำแหน่งตั้งอยู่บนเส้นศูนย์สูตร การได้ว่ายน้ำชมประการัง
ของที่นี้ถือว่าเป็นไฮไลท์เลยทีเดียว มีการดำน้ำ 2 แบบให้เราได้เลือกด้วย คือ การดำน้ำแบบผิวน้ำ Snorkel Diving หรือ ดำน้ำลึกแบบ Scuba Diving นับเป็นประสบการณ์ที่ ครั้งหนึ่งในชีวิตที่เราได้สัมผัส
กับธรรมชาติที่สวยงาม ใต้โลกท้องทะเลอันใดจนเห็น สัตว์น้ำหลายชนิด และประการังที่มีสีสันสวยงาม นอกเหนือจากการดำน้ำดูประการังแล้ว ยังมีกิจกรรมอีกมากมายเช่น พายเรือแคนนูล นั่งเรือชมฝูงปลาโลมา
เล่นเรือใบ เป็นต้น ทำให้การที่เดินทางมา มัลดีฟส์ นั้นคือการพักผ่อนโดยแท้จริง ที่พาเราหลักหนีความวุ่นวายต่างๆ มาโยนทิ้งลงทะเล และปล่อยจิตปล่อยใจไปกับทะเล ที่มัลดีฟส์บรรค่ำคืนนั้น สวยไม่แพ้ที่ใดในโลกเลย
ชายหาดที่อาบแสงพระจันทร์ ส่องสว่างกระทบหาดทราย เป็นเสน่ห์อีกแบบในยามค่ำคืน ของเกาะมัลดีฟส์ อีกทั่งที่พักของที่นี้มีหลาย สถานที่ที่สวยงามเป็นอย่างมาก และหลายราคา แต่ถ้าแลกกับบรรยากาศ
]ที่ออกจากห้องมาแล้ว อยู่ท่ามกลางทะเล นั้นนับว่าคุ้มค่าแล้ว กับการที่ได้มาพักผ่อนยังที่นี้ ด้วยความสวยงามของที่นี้เอง มักถูกนำไปใช้ในฉากหนังอยู่บ่อยๆ ทะเลที่นี้เปรียบเหมือนสรวงสวรรค์ ของการพักผ่อน
มัลดีฟส์ เดินทาง ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง?
ในการเดินทางมามัลดีฟส์ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด แถมยังไม่ต้องทำวีซ่าอีกด้วย เพียงแค่มีพาสปอร์ตเล่มเดียว และกระเป๋าเดินทางก็สามารถ เดินทางไปมัลดีฟ์ได้แล้ว สายการบินหลักๆที่เดินทางไป มัลดีฟส์ บินตรงยาวไปลงยัง ท่าอากาศยานนานาชาติในเกาะมาเล่ มีสายการบิน Bangkok Airways , Singapore Airline , Sirlankan Airline , Malaysia Airline
โดยสายการบินส่วนใหญ่ จะต้องต่อเครื่อง เวลาเดินทางจากกรุงเทพไป ใช้เวลา 6 – 8 ชั่วโมง เมื่อมาถึงสนามบิน จะอยู่ติดกับเมืองหลวง นั้นก็คือเมือง มาเล่ การเดินทางที่จะไปเกาะต่างๆนั้น มีทั้ง Speed Boat
หรือ เครื่องบินน้ำ (Sea Plane) โดยในการเดินทางนั้น เราควรมีการวางแผนก่อน ว่าเราจะไปยังที่พักของเราตรงจุดไหน เพราะจากการใช้เวลาเดินทาง 20 นาที จะกลายเป็นหลายชั่วโมงเอาได้
ในช่วงไฮซีซั่นนั้นคือ มีนาคม – เมษายน เพราะอากาศดีแสงแดดกำลังดี จึงทำให้ของทุกอย่างในมัลดีฟส์มีราคาแพง แนะนำให้เที่ยวในช่วงโลว์ซีซั่น ข้าวของราคาจะไม่สูงมาก การเดินทางด้วย
เครื่องบินน้ำ นั้นถือว่าเป็นการเปิดประสบการณ์ ในชีวิตเหมือนกัน แต่ว่าราคาค่อนข้างสูงเลยทีเดียว ราคาตกคนละ 17,000 บาท ราคานี้ขึ้นอยู่กับเลทระยะทาง และโรงแรม อันนี้ขึ้นอยู่กับงบของแต่ละคน
หากใครมีงบไม่เยอะก็สามารถ เดินทางด้วย สปีดโบ๊ท ข้อห้ามสำหรับประเทศนี้เลย ก็คือห้ามนำเข้าอาหารที่เป็นประเภทหมู และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะมัลดีฟส์เป็นประเทศที่ นับถือศาสนาอิสลาม หากท่องเที่ยวในเมืองหลวง ก็ควรแต่งกายให้ดูเรียบร้อยหน่อย เพราะชาวเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม นิกายซุนนี ที่ค่อนข้างเคร่ง
เสน่ห์ของมัลดีฟส์ อยู่ตรงไหน?
หากเปรียบความงาม ทะเลภาคใต้ของเรา ไข่มุกอันดามัน มัลดีฟล์เอง ก็เป็นไข่มุกทางฝั่ง มหาสมุทรอินเดีย ได้เช่นกัน เพราะความงามนั้นมีความแตกต่างกัน มัลดีฟส์มีทรัพยากร ทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ดูได้จากประการังชนิดต่างๆ และสัตว์ทะเลที่หลากหลายสายพันธ์ุ ทั้งนี้ส่วนที่เป็นป่าของเกาะนั้น ยังมีสัตว์ป่าที่ไม่ได้พบเห็น
โดยทั่วไปในโลกของเราอีกด้วย ถือว่าเป็นสัตว์ป่าท้องถิ่น ของที่นี้โดยตามดั้งเดิมจริงๆ ด้วยความที่ประเทศมัลดีฟส์ มีพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นเกาะ ทำให้การเดินทางเที่ยวชม
เกาะต่างๆในประเทศมัลดีฟส์นั้น มีความงามโดยธรรมชาติ ที่รูปทรงเกาะมีทั้งขนาดเล็กและใหญ่ อยู่ด้วยรอบเมืองหลวง ประชากรของมัลดีฟส์ มีประมาณ 270,000
คนและประชากรส่วนใหญ่ 75,000 คน อาศัยอยู่ในเมืองหลวงของประเทศ รองลงมาเป็นเกาะ Hithadhoo ใน อะตอล (Addu) 9,640 คน , เกาะ Fuamulah 7,223 คน
และเกาะ Kulhudhufushi ใน Haa Dhaalu 6,354 คน ตามลำดับ บางเกาะอาจมีประชากร ไม่ถึง 200 คนด้วยซ้ำ ด้วยประชากรที่น้อย ทำให้พื้นที่ทางธรรมชาติ ยังคงสมบูรณ์ และได้รับการอนุรักษ์ตลอดมา
สรุปการเดินทางไป ท่องเที่ยวมัลดีฟส์เป็นอยางไร?
การเดินทางมาพักผ่อน ยังเกาะมัลดีฟส์ ภาพแรกของใครหลายๆคนมัก เป็นกังวลว่ามันจะต้องเดินทางไปยาก แต่แท้จริงแล้วการเดินทางไม่ยากเลยแม้แต่น้อย กิจกรรมที่มัลดีฟส์
ส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมทางทะเล พอมีโชว์วัฒนธรรมท้องถิ่น ให้เราได้เห็นวัฒนธรรมพื้นเมือง ของที่นี้ ความงามที่คุ้มค่า เกินกว่าราคาที่เราต้องจ่าย เพื่อแลกกับประสบการณ์
ที่ได้เดินทางมาสัมผัส บรรยากาศทะเลที่สวยงาม และแสนอบอุ่นด้วยอากาศที่เป็นแบบเดียวกันตลอดทั้งปี ยกเว้นช่วงฤดูหนาวที่ มีอากาศเย็นแต่ไม่ถึงกับหนาว ช่วงฟูมูนนั้น มัลดีฟส์
เป็นจุดไฮไลท์ของนักท่องเที่ยว ทั่วทั้งโลก เพื่อมาสัมผัสความสวยงาม ของพระจันทร์อยู่ส่องสว่าง ท่ามกลางทะเลที่อยู่รอบตัวเรา ทำให้เป็นความประทับใจ ที่ไม่อาจลืมเลือนได้ จึงทำให้
มองว่าการมาท่องเที่ยว มัลดีฟส์ นั้นเหมือนเป็นการมาสัมผัส ธรรมชาติของทะเลโดยแท้จริง ความสวยงามของน้ำทะเล ที่ใสชนิดมองเห็นเท้าตัวเองในน้ำ ถือว่าเป็นมนต์เสน่ห์ ของที่นี้ที่มีคอนเซ็ปต์ การท่องเที่ยวโดยให้ ธรรมชาติโอบกอดเรา ที่พักรีสอร์ทต่างๆ จึงอยู่ริมหาดและจุดที่น้ำทะเลขึ้นต่ำ หากใครชื่นชอบการ ท่องเที่ยวทะเลแล้วละก็ ที่นี้นับว่าห้ามพลาดอย่างเด็ดขาด